เกิดเหตุทะเลาะวิวาทในหอพักแห่งหนึ่ง บริเวณซอยติวานนท์ 43 ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี เหตุการณ์เริ่มต้นจากกลุ่มวัยรุ่นหญิงที่มีปากเสียงกันจากนั้นนายก้อง ชายวัยรุ่นที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ ได้เข้ามาข่มขู่พร้อมกับชักปืนจ่อชายวัยรุ่นที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ ทำให้เกิดความตึงเครียดในสถานการณ์
ต่อมานายพงศ์พันธ์ บุณยกะลิน หรือโอ๊ต อายุ 43 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของหอพัก ได้เข้ามาห้ามปรามเหตุการณ์ แต่ถูกนายบัง ซึ่งเป็นชายอีกคนหนึ่งในกลุ่มชักปืนจ่อศีรษะข่มขู่ โอ๊ตตัดสินใจแจ้งความกับสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากผู้ก่อเหตุทั้งสองอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและใช้อาวุธปืนข่มขู่ประชาชน
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่หอพักเพื่อติดตามความคืบหน้า นายพงศ์พันธ์ หรือโอ๊ต ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ได้เข้าแจ้งความที่สภ.รัตนาธืเบศร์เมื่อวานนี้ คู่กรณีคือนายก้องที่เป็นตำรวจได้มีการขอโทษผ่านทางโทรศัพท์มือถือจากพี่สาวของนายก้อง แต่ตนยังคงยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เนื่องจากกังวลว่าผู้ก่อเหตุจะกลับมาก่อเหตุลักษณะนี้อีก ซึ่งตนมองว่าพฤติกรรมนี้เป็นภัยต่อสังคม และหากเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้ตนอาจเสียชีวิตไปแล้ว
นายพงศ์พันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนไม่เคยประสบเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อนในขณะที่ทำงานเป็น รปภ. มานานหลายปี อยากให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนสำหรับผู้ก่อเหตุ และวอนขอให้ผู้บังคับบัญชาได้จัดการกับตำรวจที่มีพฤติกรรมแบบนี้พกปืนโดยไม่มีเหตุอันควร เพื่อปกป้องเกียรติของหน่วยงาน ส่วนในด้านความปลอดภัย ตอนนี้ยังคงกังวลว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอาจกลับมาทำร้ายอีก โดยเฉพาะนายบัง ซึ่งสวมเสื้อสีขาวและเป็นคนที่ชักปืนจ่อศีรษะตน แต่ไม่แน่ใจว่านายบังเป็นตำรวจจริงหรือไม่ ด้านคดีขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่ายังต้องรอการสอบสวนเพิ่มเติมจะโทรติดต่อตนมาอีกครั้ง
นางบุญสม บุณยกะลิน อายุ 73 ปี แม่ของผู้เสียหายเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนออกไปธุระหาของกิน หลังจากกลับมาถึงพบว่ามีคนยืนกันเต็มลานจอดรถของหอพัก รวมทั้งลูกชายของตนด้วย ตนจึงสอบถามเหตุการณ์และทราบว่าลูกชายถูกคนเอาปืนจ่อหัว โดยในกลุ่มดังกล่าวมีข้าราชการตำรวจรวมอยู่ด้วย ตนรู้สึกตกใจมาก เพราะลูกชายไม่เคยมีเรื่องแบบนี้มา ก่อน และทำงานหาเช้ากินค่ำ เมื่อตนย้อนดูกล้องวงจรปิด ขณะดูหัวใจแทบสลาย หากชายฉกรรจ์ที่สวมเสื้อขาวยิงจริง ลูกชายคงไม่มีชีวิตรอดไปแล้ว
ตอนนี้ตนรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย เกรงว่ากลุ่มนี้จะกลับมาทำร้ายอีก จึงขอให้เป็นเรื่องของกฎหมายเพราะลูกชายยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตนไม่ต้องการให้คนแบบนี้ไปก่อเหตุกับใครอีก ยิ่งในกลุ่มนี้มีคนที่เป็นตำรวจ ยิ่งไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนี้
ฉัตรมงคล I นนทบุรี