จากกรณีเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 12 ก.พ. 68 ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นางเอ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี และนางบี (นามสมมติ) อายุ 57 ปี สองพี่น้องแม่ค้าลอตเตอรี่ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ เดินทางเข้าร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจาก ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการ จังหวัดนนทบุรี และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” หลังถูกนางประหยัด อายุ 71 ปี หลอกให้เช่าโควตาลอตเตอรี่ สูญเงินไปเกือบ 200,000 บาท โดยอ้างว่าติดปัญหาเรื่องเงิน นำเงินไปจัดงานมหรศพที่จังหวัดชัยภูมิ จึงไม่มีเงินมาใช้หนี้
ความคืบหน้าล่าสุด ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี นางเอ (นามสมมติ) อายุ 45 ปี ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมนางประหยัด อายุ 71 ปี ได้เดินทางมาเข้าพบ ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ “ดร.แก้ว” ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการ จังหวัดนนทบุรี และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” เพื่อทำการจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาท งวดแรกของยอดทั้งหมด 171,000 บาท ตามที่นัดหมายไว้ แต่ปรากฏว่านางประหยัด มีเงินเพียง 200 บาท ไม่มีเงินจ่ายผู้เสียหาย
นางเอ เล่าว่า วันนี้ต้องเดินทางมาที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ตามที่ทางด้านดร.แก้วได้นัดตนและนางประหยัดเอาไว้ ตามนัดหมายนั้นนางประหยัดจะต้องให้เงินตนจำนวน 30,000 บาท ตามที่พูดคุยกันไว้เมื่อครั้งก่อน แต่ปรากฏว่าหลังจากได้เจอนางประหยัด บอกกับตนว่าไม่มีเงินเหลือเงินติดตัวอยู่ 200 บาท ทำให้ตนหมดหวัง และผิดหวัง คิดว่าอนาคตคงไม่ได้เงินคืนแน่นอน ซึ่งวันนี้ก่อนนางประหยัดจะมาเจอตน นางประหยัดได้เตรียมตัวเดินทางกลับจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งตนเป็นคนโทรศัพท์ไปหาและพูดคุยให้มาพบเจอกันก่อน
หลังจากนี้ตนก็กังวลว่านางประหยัดจะหายไปแล้วไม่เอาเงินมาคืน แต่อีกส่วนหนึ่งก็หวังเล็กๆว่านางประหยัดจะกลับบ้านแล้วไปหาเงินโอนมาให้ อย่างไรก็ตามตอนนี้ตนเดือดร้อนมาก ทางญาติได้ช่วยกันนำเงินส่วนตัวไปซื้อลอตเตอรี่ส่วนหนึ่งมาขาย เพื่อเงินขึ้นรถเดินทางกลับจังหวัดเพชรบูรณ์ ตอนนี้เป็นหนี้หลายอย่าง ไม่มีเงินกิน ไม่มีเงินจ่ายค่าห้องเช่า และไม่มีเงินเดินทางกลับบ้าน เพราะตนหมดตัวแล้ว รายได้หลักก็คือขายหวย หลังจากวันหวยออกก็จะเดินทางกลับต่างจังหวัดไปทำสวนกับสามี
ตอนนี้อยากขอวอนคนที่สงสารหรือเห็นใจช่วยอุดหนุน ลอตเตอรี่ของตนเพื่อหาเงินค่ารถกลับบ้าน ซึ่งช่วงเช้าตนจะขายอยู่ตลาดพระนั่งเกล้า ช่วงสายถึงบ่ายโมงก็จะไปขายแถวสนามบินน้ำ และฝากถึงตำรวจขอให้ช่วยติดตามคดีให้ทางนางประหยัดได้มาชดใช้เงินตน หากหลบหนีก็ขอให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
ด้านนางประหยัด เปิดเผยว่า ตนยอมรับว่าหลังจากที่ทางดร.แก้ว ได้เรียกไปพูดคุย เจรจาไกล่เกลี่ยครั้งที่แล้ว ซึ่งตนก็รับปากว่าจะชดใช้ในงวดแรกจำนวน 30,000 บาท ตามที่ตกลงไว้ แต่วันนี้ยอมรับว่าหาเงินไม่ทันจริงๆ เงินติดตัวมีอยู่ไม่ถึง 200 บาท จ่ายค่าแท็กซี่เดินทางมาโรงพักวันนี้ก็เหลือติดตัวอยู่ ไม่ถึง 100 บาท จึงอยากขอโอกาสจากผู้เสียหายว่าขอกลับไปหาเงินที่จังหวัดชัยภูมิ ขอเวลาหาเงินหากได้เงินมาก็จะรีบโอนทยอยตามยอดที่ได้ตกลงไว้ แบ่งจ่าย 3 งวด รวมยอดทั้งหมด 171,000 บาท ยืนยันว่าตนไม่หนีแน่นอน ความจริงก็คือความจริง ตนขอสาบานหากตนหนีก็ขอให้มีอันเป็นไปไปเลย เพราะตนก็กลัวตำรวจจับไม่อยากติดคุก
ส่วนด้าน ดร.แก้ว เผยว่า วันนี้ได้เดินทางมาตามนัดหมายแต่ทางนางประหยัดไม่มีเงินจ่ายตามที่พูดคุยกันไว้ จึงได้ประสานกับทางผู้กำกับการสภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมาย โดยประสานไปยังพนักงานสอบสวนให้เร่งรัดเรียกนางประหยัดมาทำการสอบปากคำ ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
ฉัตรมงคล I นนทบุรี