
วัดหนองกระดูกเนื้อ ต.หนองนมวัว อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์ โดย พระครูนิติสุตากร ( พระอาจารย์สุภัค ) เจ้าอาวาสวัดหนองกระดูกเนื้อ จัดพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปปางเปิดโลก ศิลปะคันธารราฐ เนื้อสำริด ประดิษฐานไว้เหนือเศียร พระอสุรินทรราหู ปางพลิกดวงเศรษฐี ใหญ่ที่สุดในโลก และเททองหล่อหัวใจ พระอสุรินทรราหู
ในบรรดาเทพนพเคราะห์ทั้ง ๙ องค์ นั้นมีเพียงพระราหูพระองค์เดียวเท่านั้นที่เป็นพระโพธิสัตว์ และได้รับพระพุทธพยากรณ์แล้ว แม้พระอาทิตย์ และพระจันทร์ ผู้มีบุญญาธิการอันสูงส่ง ก็มิได้เป็นพระบรมโพธิสัตตว์ ดังเช่น พระราหู
ดังนั้นการนับถือ บูชา พระราหูจึงไม่ใช่การบูชาภูตผีปีศาจ แต่เป็นการบูชาพระโพธิสัตว์ ในรูปกายแห่งเทพอสูร อันเป็นคติสอนให้พิจารณาว่า อย่ามองที่รูปกายภายนอก แม้ว่ารูปกายแห่งพระราหูจะดูดุดันน่ากลัว แต่คุณธรรมภายในนั้นกลับตรงข้าม
พระราหู เป็นเทพอสูรที่บำเพ็ญบารมี เพื่อบรรลุพระโพธิญาณมานับชาติไม่ถ้วน ภายในจิตใจนั้นมีแต่ความปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์ สิ่งเลวร้ายในชีวิตมนุษย์นั้นไซร้ ย่อมเกิดจากผลกรรมเก่า และใหม่ที่ตนก่อไว้ เมื่อถึงเวลา กรรมนั้นย่อมเป็นไปตามกลไกของมัน
โดย พระราหูเทพอสุรินทร์ เป็นเทพยุเจ้าผู้เป็นพยานแห่งการกระทำกรรมของมนุษย์ หาได้ให้ร้ายใครไม่ ส่วนเรื่องอิทธิฤทธิ์ของพระราหูนี้มีมากนัก แม้ว่าต่อมาจะเหลือร่างกายเพียงครึ่งเดียว แต่ก็ทรงตบะเดชะไม่เป็นสองรองใคร ซ้ำยังสามารถเข้าบดบังดวงอาทิตย์ และดวงจันทร์ได้ ซึ่งอำนาจในการบดบังดวงอาทิตย์นี้ ครูบาอาจารย์บางท่านได้กล่าวสรรเสริญไว้ว่า แม้ดวงอาทิตย์ที่ร้อนแรง ก็ยังมีพระราหูมาบดบังให้เยือกเย็น ท่านจึงว่าพระราหูนั้น มีคุณในการดับร้อนให้เป็นเย็น หรือมีอำนาจในการบังตาเป็นที่น่าอัศจรรย์
ในครั้งนั้น พระพุทธองค์ยังได้กล่าวถึงบุพกรรมแต่หนหลังของพระราหูว่า พระราหูเคยตั้งปณิธานไว้ว่า จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ซึ่งการบำเพ็ญบารมีของพระราหู ทุกภพชาติที่ผ่านมานั้น ในพระไตรปิฎกยังกล่าวอีกว่า พระราหูจะสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า ” พระพุทธนารทตถาคตเจ้า” นับเป็นองค์ที่ 5 ถัดจาก ” พระศรีอารยเมตไตรพุทธเจ้า”
จากคติดังกล่าวนี้ จึงถือว่าพระอสุรินทราหู นั้นมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์ และเป็นหน่อเนื้อพระพุทธางกูรแห่งองค์พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นที่น่าเคารพบูชากราบไหว้ของชาวพุทธ ซึ่งการบูชาพระโพธิสัตว์ เป็นคตินิยมของมหายาน แต่ฝ่ายหินยานหรือในบ้านเรานั้น ก็รู้จักเรื่องพระโพธิสัตว์น้อยมาก
ทั้งนี้ เพราะพระราหูนั้น มีเพศเป็นแทตย์ และอยู่ในระดับอสูรเทพ และยังมีบารมีธรรมเป็นพระโพธิสัตว์ที่ได้รับพระพุทธพยากรณ์จากพระพุทธองค์ ว่าจะต้องสำเร็จมรรคผลโพธิญาณอย่างแน่แท้
พระโพธิสัตว์เจ้า ที่ได้รับพระพุทธพยากรณ์เช่นนี้จากพระพุทธเจ้า ถือว่าเป็นพระโพธิสัตว์หน่อพุทธางกูรเที่ยงแท้ บำเพ็ญบารมีถึงขั้น “อจลภูมิ ” แล้วจึงได้รับการขนานพระนามเป็นเกียรติว่า “พระบรมโพธิสัตว์” การอธิษฐานอ้างถึงคุณงามความดีของพระราหูดังกล่าว จึงถือเป็นอาราธนาคุณของพระราหูทั้งด้านบุญฤทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ พร้อมกันในตัว เป็นสิริมงคลแก่ผู้ระลึกถึงเป็นอย่างมาก