เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองปลิง ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถเครนขนาดขนาดใหญ่ เสียหลักพุ่งชนร้านค้าของประชาชนเสียหายหลายหลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณริมถนนสายนครสวรรค์-ชุมแสง ใกล้กับห้างแม็คโคร พื้นที่ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ มีรถเครน สีเหลือง ของบริษัท สุนันท์เครน จอดอยู่ในแนวขวางถนน ในสภาพด้านหน้ารถทิ่มเข้าหาร้านข้าวขาหมูริมทาง จนร้านได้รับความเสียหายพังยับเยิน และนอกจากนี้ ยังมีร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านขายของชำที่อยู่ริมถนนใกล้กันอีก 2 หลัง รวมถึงอู่ซ่อมรถ และรถจักรยานยนต์ 3 คัน ได้รับความเสียหายหนักด้วยเช่นกัน ส่วนผู้บาดเจ็บ มี 1 ราย ทราบว่าเป็นหญิงวัยกลางคน เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ได้รับบาดเจ็บจากการถูกน้ำร้อนลวกตามร่างกายเกือบทั้งตัว แต่ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัย รีบปฐมพยาบาลก่อนจะนำตัวส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์แล้ว
ทั้งนี้ ในส่วนของคนขับ พบว่า ไม่ได้หลบหนีไปไหน และยังอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมกับให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น ทราบชื่อคือ นายพิพัตน์ อินจันทร์ อายุ 45 ปี ให้การว่า ได้ขับรถเครนของบริษัท ออกไปทำงานตามที่ได้มอบหมายในพื้นที่ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ เมื่อเสร็จงาน จึงขับรถกลับ เพื่อเอารถมาเก็บไว้ที่บริษัท แต่เมื่อขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ ปรากฏว่า ไม่สามารถควบคุมรถได้ เนื่องจากระบบลมของรถ ที่ควบคุมทั้งระบบเบรก และเกียร์ มาเสียกะทันหัน จึงทำให้ตนต้องหักพวงมาลัยหลบรถเก๋งคันหน้า แล้วจึงเสียหลักพุ่งข้ามเลนไปชนร้านก๋วยเตี๋ยวก่อนรถจะหมุนสะบัดไปกวาดเอาร้านของชำ อู่ซ่อมรถ และร้านข้าวขาหมู จนพังไปทั้งแถบ ซึ่งตนขอยืนยันว่า เป็นอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดจริงๆ เพราะตอนที่ขับรถออกจากงานมา ก็ยังขับได้ดีอยู่ และตนไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มมึนเมามาแต่อย่างใด
ขณะที่ นายสายัณห์ พานรอง อายุ 66 ปี เจ้าของร้านข้าวขาหมูที่ถูกชนจนร้านพัง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะเกิดเหตุ เป็นช่วงที่ร้านปิดแล้ว และตนก็มัวเก็บข้าวของอยู่หลังบ้าน แต่จู่ๆ ก็ต้องสะดุ้งตกใจแทบหงายหลัง เมื่อได้ยินเสียงโคร่มอย่างดังมาจากทางหน้าร้าน เมื่อหันไปเหลียวมอง ก็เห็นหน้ารถเครนค่อยๆ กวาดหลังคาสังกะสีของร้านตน จนพังราบลงไปกับตา
“ตอนรถเครนมันชนกวาดร้านผม หลานสาวของผม ก็นั่งอยู่ที่หน้าร้านด้วย แต่เคราะห์ดีที่ลูกสาวผมเห็นทัน รีบเข้าไปอุ้มหลานสาว แล้วพากันกระโจนหนีได้ทันไปอย่างหวุดหวิด ส่วนร้านของผม คงจะเปิดขายไม่ได้ไปอีกสักระยะ เพราะความเสียหาย นอกจากร้านจะพังยับเยินไม่มีชิ้นดีแล้ว ข้าวของเครื่องใช้ขายของต่างๆ ยังได้รับความเสียหายตามไปด้วย”
ส่วนนายไตรรัตน์ รอดม่วง อายุ 45 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวริมทาง ที่ถูกรถเครนพุ่งชนเป็นร้านแรก เปิดเผยว่า ตอนนั้น กำลังช่วยกันกับภรรยา เพื่อจัดแจงร้าน เตรียมเปิดขายก๋วยเตี๋ยวในช่วงเวลากลางคืน ก็ต้องตกใจตาแทบบถลน เมื่อเห็นรถเครนหักรถหลบรถเก๋ง แล้วก็เสียหลัก พุ่งเข้ามาชนร้านตนทันที ซึ่งตนตั้งตัว กระโดดหลบไปที่ข้างร้านได้ทัน แต่ภรรยาดันหลบไม่ทัน เพราะหม้อก๋วยเตี๋ยวขวางทางหนีอยู่ แม้เจ้าตัวจะไม่ได้ถูกรถเครนชนจังๆ แต่ความแรงที่ถูกรถเครนพุ่งชนร้าน ได้ทำให้หม้อน้ำซุปโค่นจากแท่นวาง จนน้ำซุปกระเซ็นไปลวกภรรยาจนได้รับบาดเจ็บเกือบทั้งตัว
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายพิพัตน์ คนขับรถเครนไปสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนอย่างละเอียด ก่อนจะมีการแจ้งข้อหาต่อไปแล้ว ส่วนมูลค่าความเสียหาย พบว่า หลังเกิดเหตุ ได้มีรถและทีมงานของบริษัทรถเครน เดินทางมาตรวจสอบ พร้อมกับกล่าวยืนยันกับฝ่ายผู้เสียหายหลายรายว่า รถเครนคันนี้มีประกัน และทางบริษัท จะรับผิดชอบชดใช้ความเสียหายให้ทั้งหมด แต่ในส่วนของสาเหตุที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ของบริษัท ให้การว่า ระบบปั๊มลมของรถเครน น่าจะเสียกะทันหัน จึงทำให้รถไม่สามารถเบรกได้ จนเสียการควบคุมไปพุ่งชนร้านค้าจนเสียหายดังกล่าว ซึ่งจะมีการนำรถไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ชลิต I นครสวรรค์