สถานการณ์หลังพบเชื้อแอนแทรกซ์ระบาดบ้านโคกสว่าง ตำบลเหล่าหมี อำเภอดอนตาล จังหวัดมุกดาหาร ชาวบ้านในพื้นที่ส่วนใหญ่ต่างอาศัยภายในบ้านเรือนของตัวเองไม่ออกมาจับกลุ่มพูดคุยกับเพื่อนบ้านเหมือนเก่า เพราะทุกคนต่างก็อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ทั้งในฐานะผู้ชำแหละ ผู้รับประทาน หรือผู้สัมผัสร่วมบ้านผู้ชำแหละ หลังพบเชื้อแอนแทรกซ์ระบาดเมื่อ 7 วันก่อน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และ ติดเชื้อ 3 คน ร้านค้าภายในชุมชนร้านนี้จากปกติจะมีชาวบ้านเดินทางมาเลือกซื้ออาหารสด พืชผัก เพื่อนำไปปรุงเป็นอาหารในช่วงเย็นกันอย่างคึกคัก ตั้งแต่พบการระบาดของเชื้อแอนแทรกซ์ ก็พบว่ามีชาวบ้านออกออกมาเลือกซื้ออาหารน้อยลง ส่วนใหญ่จะทำกินภายในครัวเรือน
นายทัศนเทพ รักษ์พิทักษ์กุล ผู้ใหญ่บ้านโคกสว่าง หมู่ 6 ให้ข้อมูลว่า ความกังวลของชาวบ้านก็มีบ้าง แต่ว่าบางหน่วยงานก็บอกว่าผลบวกจากเขียง มีด แต่วัวไม่มีเชื้อ อยากได้ยินคำตอบที่ชัดเจนว่าโรคนี้เกิดที่ไหนกันแน่ อยู่จุดใดกันแน่ เป็นโรคแอนแทรกซ์จริงหรือไม่ โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำดินจากบริเวณจุดที่มีการชำแหละวัว และขอเนื้อวัว ซึ่งได้มาจากการชำแหละวัวในวันที่ 28 เมษายน เพื่อส่งไปตรวจที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการสัตวแพทย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน วึ่งจะรู้ผลประมาณวันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม แต่จนถึงวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่ยอมแจ้งให้ชาวบ้านทราบถึงผลการตรวจเป็นอย่างไรบ้าง ทำให้ชาวบ้านเกิดวิตกกังวลในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมาก
ขณะที่ นางพรสวรรค์ ภววิจารย์ เจ้าของร้านค้าภายชุมชน เปิดเผยว่า ตนเองไม่มีความกังวลแล้ว เพราะไม่ได้อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุก็สบายใจ และการประชาสัมพันธ์ของผู้ใหญ่บ้านได้ทั่วถึง เจ้าหน้าที่ก็มาให้ความรู้ทาง อสม.ก็ได้ลงมาตรวจตราและให้ความรู้กับชาวบ้านก็สบายใจ และคลี่คลายความกังวล มีเพียงลูกค้าที่เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านออกมาเลือกซื้อสิ้นค้าร้านของตนลดลง
ข้อมูลจาก สสจ.มุกดาหาร สถานการณ์ผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ โรงพยาบาลมุกดาหาร วันที่ 7 พ.ค. 68 ผู้ป่วยสะสมรวม 4 ราย อยู่ระหว่างรักษา 3 ราย เสียชีวิต 1ราย ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม สำหรับผู้เข้าข่ายเฝ้าระวัง 98 คน จะครบกำหนดการเฝ้าระวังโรคในวันที่ 7 พฤษภาคม และจะออกจากกระบวนการเฝ้าระวัง วันที่ 8 พฤษภาคม สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนอาการของผู้ป่วยรายล่าสุดที่ได้รับการยืนยันเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม เป็นผู้ป่วยหญิง ซึ่งทำมีดบาดมือในขณะปรุงอาหารทำให้เกิดการติดเชื้อ มีโรคประจำตัวคือเบาหวาน
อาการใน วันที่ 7 พฤษภาคม คือ มีไข้ 38.2 องศา วัดออกซิเจนในปอดได้ 98% ส่วนแผลที่ติดเชื้ออาการบวมลดลง ขณะนี้อาการไม่น่าเป็นห่วง แต่เนื่องจากมีโรคประจำตัวคือเบาหวาน แพทย์จึงต้องการดูแลอย่างใกล้ชิดจึงได้ย้ายตัวมารักษาที่โรงพยาบาลมุกดาหาร ซึ่งมีแพทย์อายุรกรรมที่ดูแลได้โดยตรง โดยจะต้องระวังไม่ให้มีการติดเชื้อเข้ากระแสเลือด และเบื้องต้นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 10 วัน จนกว่าจะไม่มีไข้ คุมระดับน้ำตาลได้ดี แผลแห้งและขูดแผลไปเพาะเชื้อ หากไม่พบเชื้อก็สามารถกลับบ้านได้