พฤหัส. พ.ค. 15th, 2025

นนทบุรี : ชาวบ้านวิ่งช่วยสาวใหญ่ วัย 44 ปี ถูกชายชาวกัมพูชาลักลอบเข้าประเทศวัย 36 ปี กระชากกระเป๋ากลางวันแสก

เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ. ปากเกร็ดได้รับแจ้งจาก นาง.ส.อมลวรรณ มาผา อายุ 44ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้เสียหาย ถูกคนร้ายเป็นชายกระชากกระเป๋าเคียง ด้านในมีโทรศัพท์ และของใช้ต่างๆ เหตุเกิดภายในซอยข้างโรงเรียนปากเกร็ด อำเภอปากเกร็ดจังหวัดนนทบุรี ขณะเกิดเหตุพลเมืองดีพบเห็นเหตุการณ์ได้ช่วยกันจับกุมตัวคนร้ายไว้ได้ทราบชื่อคือ นายวี ลา หรือ แบงค์ ชาวกัมพูชาอายุ 36ปี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจนำตัวส่ง ส.ภ.ปากเกร็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการสอบถาม น.ส.อมลวรรณ มาผา อายุ 44ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป ผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนไปสมัครเรียนให้ลูกชายคนเล็ก และไปซื้อของให้แม่กำลังขี่รถจยย.กลับเข้าซอยตามปกติพอถึงร้านค้าที่เรารู้จักเป็นร้านขายกาแฟมีผู้ชายคนนึงวิ่งออกมาจากซอยที่หลบซ่อนตัวแล้วดึง แฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ จนรถคว่ำ คนร้ายค้นกระเป๋าถือที่แขวนไว้ที่รถแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือ ของตนไปจังหวะนั้นตนเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งหนี แล้วร้องเรียกให้คนมาช่วยพอดีพลเมืองดีเห็นเลยวิ่งเข้ามาช่วย คนร้ายยังทำเป็นตีเนียนเหมือนเป็นเรื่องของผัวเมีย หยิบโทรศัพท์มือถือของตนใส่ไปในกระเป๋าถืออย่างใจเย็นแล้วยกรถมอเตอร์ไซค์ของตนที่ล้มอยู่ตั้งขึ้นทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดชึ้น คนร้ายมาคนเดียวเป็นชาวกัมพูชาไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน ต้องขอบคุณพลเมืองดีที่เป็นผู้รับเหมาในซอยที่มาช่วยกันจับคนร้าย ตนรู้สึกกลัวมากไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ขนาดเป็นตอนกลางวันแสกๆ ยังกล้าก่อเหตุแบบนี้ยังโชคดีที่ตนมาคนเดียวไม่มีลูกมาด้วยคนร้ายไม่มีอาวุธ ถ้าตนเป็นอะไรไปอีก 4 ชีวิตจะทำยังไง

สอบถามนายวี ลา หรือแบงค์ ผู้ก่อเหตุอยู่ในอาการมึนเมา สารภาพว่า ตนดื่มเหล้าเมา มาจากสามัคคี ทำงานรับเหมาก่อสร้างทั่วไป แต่ไม่มีเงิน จึงมาก่อเหตุ ที่ตนขโมยไปจะเอาเงินไปซื้อเหล้ากิน ตนยอมรับว่าทำจริง

นายไพโรจน์ ธรรมคุณ อายุ 45 ปี อาชีพ ผู้รับเหมาก่อสร้าง มาทำงานในซอยหลังรร.พอดี พลเมืองดีเล่าว่า คนมารับงานก่อสร้างที่บริเวณหน้าซอย ตอนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องว่าช่วยด้วย 2 รอบ ตนจึงออกมาดู พบว่ามีผู้ชายวิ่งเข้าไปกระชากกระเป๋าของพี่ผู้เสียหาย ตนกับน้องชายจึงวิ่งเข้าไปช่วย ซึ่งใช้เวลาจับเพียงไม่นาน ตนได้ล๊อคคอเขาไว้และให้น้องจับด้านหน้า เขาไม่ค่อยขัดขืนคาดว่าน่าจะเมาเหล้า และยาเสพติด เพราะอาการเขาออก ตาแดง และพูดจาไม่รู้เรื่อง ตนได้สอบถามเขาก็ไม่ตอบ ซึ่งดีที่เขาไม่มีอาวุธทำให้ตนง่ายต่อการจับกุมหัว และยังไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และตนไม่เคยเจอหน้าผู้ก่อเหตุมาก่อนและไม่คุ้น โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

นาง อำนวย งวนหอม อายุ 75 ปี อาชีพเปิดร้านขายของชำและอาหารตามสั่ง หน้าปากซอยหลังโรงเรียนปากเกร็ด กล่าวว่า เคยเกิดเหตุกระชากกระเป๋าแบบนี้แต่นานมาแล้ววันนี้กำลังขายของอยู่เห็นมีเสียงผู้หญิงร้องกรี๊ดรถมอเตอร์ไซค์ล้ม ตนคนร้ายวิ่งมาจากหลังต้นโพธิ์ ตอนกระชากกระเป๋าตนไม่เห็นมาเห็นตอนคนร้ายยกรถมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาตอนแรกยังคิดว่าคนร้ายเป็นคนที่มากับคนที่ถูกกระชากกระเป๋าสตางค์ มีพลเมืองดี 2 คนเป็นผู้ชายเข้ามาล๊อคตัวคนร้ายที่กำลังยกรถมอเตอร์ไซค์ ดูรูปร่างคนร้ายเหมือนคนติดยาไม่สวมรองเท้าตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนส่วนคนที่โดนกระชากกระเป๋ารู้จักกันดีจะวิ่งผ่านเข้าออกเป็นประจำ อยากฝากถึงคนที่คิดจะขโมยของคนอื่นว่าอย่าไปทำเลยได้เงินไปก็ไม่ได้ใช้ทำแบบนี้เหมือนฆ่าตัวเองสุดท้ายไม่พ้นคุก

พ.ต.ต.บรรจบ ราชกิจ สวป. สภ.ปากเกร็ด กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งเหตุประมาณ 10.00น. ว่ามีเหตุวิ่งราวทรัพย์ ตนจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปหลานนายเข้าไปพร้อมกันหลังจากที่เข้าไป มีชาวบ้านที่อยู่ระแวกใกล้เคียงจับตัวคนร้ายไว้ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า คนร้ายเป็นชาวกัมพูขา ไม่มีพาสปอร์ต แอบหลบหนีเข้าประเทศ และทำงานรับจ้างอยู่แถวสามัคคี แต่ที่มาก่อเหตุเพราะไม่มีเงินกินเหล้า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัว นายวี ลา หรือแบงค์ ผู้ต้องหา เข้ามาที่ สภ.ปากเกร็ด และทำการสอบปากคำและตรวจปัสวะพบว่าไม่มีสารเสพติด แต่มีอาการมึนเมา ซึ่งผู้ก่อเหตุรับสารภาพว่าจะนำเงินไปซื้อเหล้า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาคือ 1.ต่างด้าวลักลอบเข้าประเทศ 2.วิ่งราวทรัพย์

ฉัตรมงคล I นนทบุรี

Related Post

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *