
ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องทุกข์จาก นาง วรดาภา วรรณพิทยา หรือป้าศรี อายุ 64 ปี อาชีพแม่บ้าน อาศัยอยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยอาศัยอยู่กับลูกหลาน รวม 5 คน ลักษณะเป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง อยู่มาประมาณ 40 ปี ในช่วงวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้มีฝนตกหนักและมีน้ำท่วมขังบริเวณหมู่บ้านที่อยู่ด้านหลัง ทำให้เกิดการทรุดตัวของดินและกำแพงได้พังทลายลงมายังฝั่งบ้านของป้าศรี ซึ่งกำแพงดังกล่าวเป็นกำแพงอิฐฉาบปูน ความยาวกว่า 20เมตร ส่งผลให้เสาบ้านบริเวณห้องครัวหัก 2 ตน และมีรอยร้าวบริเวณเสาต้นอื่นๆอีก ทำให้บ้านทรุดตัวลง
ส่วนผนังบ้านบริเวณด้านหลังแตกทั้งหมดรวมไปถึงผนังห้องน้ำและมีของใช้เสียหายอีกจำนวนหนึ่ง หลังเกิดเหตุได้มีการคุยกับทาง นาง ไพลิน(สงวนนามสกุล) สวมเสื้อสีแดงในคลิป เจ้าของที่ดินและกำแพง ซึ่งทางคู่กรณีรับปากจะรับผิดชอบทั้งหมดแต่ผ่านมาจนถึงวันนี้ยังไม่มีการซ่อมแซมแต่อย่างใด แค่ให้ช่างเอาไม้แผ่นมาค้ำเสาบ้านไว้ 2 อัน แถมยังทำหนังสือสัญญาที่เอาเปรียบมาให้ตนเซนรับอีก
นาง วรดาภาหรือป้าศรี เล่าว่า เมื่อช่วงวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนและลูกกับหลานๆ ตัวเล็กอีก2คน นอนอยู่บนบ้าน ซึ่งวันนั้นฝนตกหนักมาก อยู่ๆได้ยินเสียงดังอยู่ใกล้ๆ เหมือนเสียงฟ้าผ่าก็สะดุ้งตกใจ ทั้งหมดรีบวิ่งหนีออกมาจากบ้าน จากนั้นตนมาเห็นว่ากำแพงของบ้านที่อยู่ด้านหลังได้พังทลายลงมา พวกเศษหิน อิฐ ทราย ไหลทะลักเข้ามาที่ใต้บ้านตน ส่วนกำแพงได้พาดลงมาที่ตัวบ้านทำให้ผนังบ้านแตกหักเป็นแนวยาว และทำเสาบ้านหักไป2ต้น ส่วนเสาต้นอื่นๆก็มีรอยร้าว ผนังห้องน้ำพังแตกหักต้องเอาแผ่นที่แตกมาปิดเวลาเข้าห้องน้ำ เครื่องซักผ้ามีรอบบุบ ตัวบ้านบริเวณห้องครัวทรุดลงมา
หลังเกิดเหตุคู่กรณีก็เข้ามาดูและรับปากว่าจะซ่อมแซมให้ ตนก็ดีใจเพราะทางคู่กรณีจะรับผิดชอบให้ แต่ต่อมาได้มีช่างหลายทีมเข้ามาดูและประเมินราคาซ่อมแต่ทางคู่กรณียังไม่โอเค แถมยังให้ช่างเอาไม้แผ่นบางๆมาตอกค้ำแทนเสาบ้านที่หักไป ตนมองว่ามันอันตรายและไม่ปลอดภัย เพราะคิดว่าไม้แผ่นบางๆ แค่2แผ่นจะรับน้ำหนักบ้านได้รึเปล่า ตอนนี้ไม่กล้าเดินบนบ้านเพราะกลัวว่าไม้จะหักและบ้านถล่มลงมา ส่วนผนังบ้านก็ยังไม่ได้รับการซ่อมแซม และนอกจากบ้านตนที่ได้รับความเสียหายแล้วยังมีบ้านของเพื่อนบ้านด้านหลัง ที่ถูกกำแพงพังใส่ได้รับความเสียหายเช่นกัน ส่วนบ้านข้างๆที่ใช้กำแพงเดียวกันกับคู่กรณี กำแพงบ้านเขาก็พังลงมาเช่นกันเพราะกำแพงมันดึงกันลงมาจนล้มทั้งแถบ
ป้า ศรี เล่าอีกว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ค.68 ทางคู่กรณีได้ทำหนังสือสัญญามาให้ตนเซน แต่ตนไม่รู้เรื่องกฏหมายจึงยังไม่ได้เซนให้ จึงเรียกผู้ใหญ่บ้านมาช่วยดูและให้มาช่วยเจรจา ตนรู้สึกว่าหนังสือสัญญาที่คู่กรณีร่างมาให้ ดูเอาเปรียบครอบครัวตนเกินไปเพราะคู่กรณีเขียนมาว่า จะตอกเสาใหม่ให้เพียง2ต้น เปลี่ยนผนังให้ใหม่ 3แผ่นใหญ่ และ2แผ่นเล็ก และให้เขียนรายการทรัพย์สินที่เสียหายลงไป แต่ตนยังไม่ได้เซนเพราะ อยากให้ทางคู่กรณีครอบคลุมการซ่อมแซมมากกว่านี้ เพราะมีเสาบ้านที่ร้าวอยู่อีกหลายต้น ตอนนี้ยังไม่ได้เอาเศษดินทรายที่ไหลเข้ามาในบ้านออก คิดว่าด้านล่างยังมีความเสียหายอย่างอื่นอีก ตนและครอบครัวไม่ได้หวังจะให้มาซ่อมบ้านให้ทั้งหมด เพียงแค่อยากให้ซ่อมในส่วนที่เสียหายจากกำแพงบ้านเขาที่พังลงมาใส่บ้านตนเพียงแค่นั้น
อยากให้ทางคู่กรณีคิดถึงใจของตนบ้าง ผ่านมาแล้ว7วัน ยังไม่มีการซ่อมแซมอะไรเลย นอกจากแผ่นไม้ 2 แผ่น ตอนนี้ตนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของหลานอีก2คนมากกว่า เพราะยังเด็กและชอบเล่นอยู่บริเวณใต้ถุนบ้าน ยิ่งช่วงนี้ฝนตกทุกวัน ตนกลัวว่าน้ำจากฝั่งบ้านคู่กรณีจะไหลเข้ามาที่บ้านตน และจะมีพวกดินทรายไหลเข้ามากลัวว่าจะดินทรุดและทำให้บ้านพัง ล่าสุดวันนี้ทางคู่ได้โทรมาต่อว่าตนและผู้ใหญ่บ้าน จะไม่ยอมซ่อมแซมให้หาว่าผู้ใหญ่บ้านมาพูดจาข่มขู่และยังท้าทายบอกให้ตนไปแจ้งความดำเนินคดีได้เลย
ฉัตรมงคล I นนทบุรี