ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ระบุการปราบปรามบุหรี่ไฟฟ้าเข้มข้นมาก ยุทธการ Stop Weapon สำเร็จเป็นไปตามเป้า


พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษตามนโยบายเร่งด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศนรด.ตร.) เปิดเผยถึงการกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้าวันนี้ว่า ช่วงนี้เข้มข้นมาก ซึ่งเป็นนโยบายของ นายกรัฐมนตรี ที่ได้ร่วมมือกันระหว่าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง กรมศุลกากร และ DSI.

ซึ่งห้วงตั้งแต่ 1 ม.ค.68 จนถึง 30 มิ.ย.68 สามารถจับกุมได้กว่า 2 ล้านชิ้น มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท สามารถจับกุมรายใหญ่ได้กว่า 20 ราย ส่วนใหญ่เกิดขึ้นใน กรุงเทพ ฯ และปริมณฑล ส่งผลทำให้ ดีมาน และซัพพาย ขัดแย้งกัน ขณะนี้เริ่มหาซท้อมาสูบยากแล้ว แต่เราจะให้ให้ไม่สามารถหาซื้อได้เลยให้จงได้ เพราะบุหรี่ไฟฟ้าเป็นมหันตภัยร้ายแรงมากถึงชีวิตได้ ถ้าประชาชนพบเห็น หรือมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการปราบปราม ก็สามารถแจ้งมาได้ที่ 1599 หรือ 191

พล.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมพิเศษตามนโยบายเร่งด่วน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศนรด.ตร.) ได้เปิดเผยที่ กองบัญชาการตำรวจภาค 6 อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ระหว่างการแถลงผลการปฏิบัติการยุทธการ “Stop Weapon” ในพื้นที่ ตำรวจภาค 6 ที่รับผิดชอบพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง โดยลงมือปฏิบัติการพร้อมกันในวันนี้ และเป็นแผนเร่งด่วนในการขจัดภัยอาชญากรรม โดยเน้นเป้าหมายการตรวจค้นและยึดอาวุธสงคราม อาวุธปืน และยาเสพติด จากการบูรณาการกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายจำนวน 359 จุดในหลายพื้นที่

พบว่าผลการปฏิบัติการเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสามารถยึดของกลางได้เป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย อาวุธปืน 128 กระบอก เครื่องผลิตอาวุธปืน ยาเสพติด (ยาบ้า) 61,903 เม็ด เงินสด 205,100 บาท พร้อมของกลางอื่นๆ อีกหลายรายการที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ส่วนจังหวัดตามแนวชายแดนเช่น ตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ สถานการณ์ยังคงปกติดี

ทั้งนี้ ยุทธการ “Stop Weapon” ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแผนปฏิบัติการสำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเร่งขจัดภัยจากอาวุธปืนและยาเสพติดที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะยังคงเดินหน้ากวาดล้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่