นนทบุรี : หนุ่ม รปภ.วัย 22 วางมวยแพ้รุ่นพี่ รปภ.ป้อมเดียวกัน คว้ามีดแทงดับคาป้อม อ้างปัญหาสะสม-ถูกข่มมานาน นั่งรอมอบตัวไม่หนี


พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกแทงเสียชีวิตบริเวณหน้าป้อมยามหมู่บ้านคุณาภัทร 3 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หลังรับแจ้งจึงนำกำลังสายตรวจ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และทีมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดเข้าตรวจสอบ

กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.33 น. พบว่าผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บนเก้าอี้ภายในป้อมยาม ขณะที่ผู้ก่อเหตุยืนอยู่ในป้อมเช่นเดียวกัน จากนั้นทั้งสองฝ่ายมีปากเสียงกัน ก่อนจะเกิดการชกต่อยกันขึ้น จนกระทั่งผู้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมา แทงเข้าบริเวณใต้ราวนมของผู้เสียชีวิต

ต่อมาจะเห็นภาพผู้เสียชีวิตพยายามเดินออกมาจากป้อมยาม โดยใช้มือกุมบาดแผลไว้ และมีลักษณะคล้ายกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนรู้จักเพื่อให้ช่วยเรียกรถพยาบาล จากนั้นผู้เสียชีวิตเดินมาถึงริมถนนบริเวณหน้าป้อมยาม ก่อนจะล้มลงเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว

ผู้ก่อเหตุจึงเดินออกมาว่ากล่าวผู้เสียชีวิตและกลับเข้าไปภายในป้อมยาม และเป็นผู้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ชีพให้มาที่เกิดเหตุ ก่อนจะยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยไม่หลบหนี
ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าป้อมยามหมู่บ้าน

พบศพชายทราบชื่อคือ นายเฉลิมเกียรติ จริยะโชติภูมิ อายุ 50 ปี รปภ.ของหมู่บ้าน และเป็นชาวจังหวัดนนทบุรี นอนหงายเสียชีวิตจมกอเลือดอยู่กับพื้น สภาพศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดบริเวณหน้าอกด้านซ้าย จำนวน 1 แผล ลึกถึงอวัยวะภายใน

ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือนายมานิต บุญมา อายุ 22 ปี รปภ.ของหมู่บ้านคนเดียวกัน เป็นชาวจังหวัดอำนาจเจริญ หลังก่อเหตุได้โยนมีดพับทิ้งเข้าพุ่มหญ้าข้างหมู่บ้าน และนั่งรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมทั้งเป็นผู้โทรแจ้งสายด่วน 1669 ให้มารับตัวผู้บาดเจ็บ แต่ปรากฏว่านายเฉลิมเกียรติเสียชีวิตก่อน

นายสนิท บุญมา อายุ 60 ปี พ่อคนแทงกล่าวว่าลูกชายไม่เคยบอกว่ามีปัญหากับใครตนเคยเห็นคนตายแต่ไม่เคยคุยกัน เอาข้าวมาส่งลูกชายหน้าป้อมยามแล้วกลับบ้าน ลูกตนทำงานที่นี่ประมาณ 7 เดือนก่อนตายลูกพูดเป็นลางว่ากลับถึงบ้านให้หุงข้าวรอหนูให้ซื้อแกงมาด้วย เดี๋ยวหนูกลับถึงบ้านจะได้ไปกินหลังจากนั้นตนบอกให้ลูกรีบไปทำงาน ตอนนั้นเวลาประมาณ 19.00 น.

หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงลูกชายโทรมาบอกตนว่า มีเรื่องใช้อาวุธมีดแทงคนตายตนเลยบอกว่าให้รอมอบตัวลูกชายไม่ได้บอกว่าแทงกันตายเพราะสาเหตุอะไร ลูกชายไม่เคยทะเลาะกับใคร หลังเกิดเหตุยังไม่ได้คุยกันตำรวจนำตัวไปที่สภ.ตอนนี้รู้สึกแย่มากสงสารลูก

นางธีรพรณ์ ศิริสุข อายุ 50 ปี แม่ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ลูกชายเป็นคนนิสัยดีไม่จู้จี้จุกจิกกับใคร เวลามีปัญหาไม่เคยบอกกับพ่อแม่เป็นคนไม่ค่อยพูดตนไม่เห็นลูกเครียดกลับจากงานกินข้าวแล้วเข้านอนตามปกติ แม่ออกไปขายของไม่เคยบอกว่าทะเลาะกับใครตอนนี้แม่ตกใจมากทำอะไรไม่ถูกรู้สึกเสียใจมาก ไม่คิดว่าลูกจะอารมณ์ร้อนขนาดนี้ เป็นคนทำมาหากินมีเงินก็แบ่งพ่อแม่ใช้ไม่เคยทำความเดือดร้อนให้

น.ส.วรารัตน์ ธันวานิวัฒน์ อายุ 46 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พี่ชายเป็นรปภ.ก่อนหน้านี้ทำงานอยู่ที่อื่นย้ายมาอยู่ที่นี่เพราะใกล้บ้านมาทำงานไม่ถึงปี อยู่กับแม่และลูกสาวอยู่ในหมู่บ้านใกล้ที่ทำงานเวลาทะเลาะกับใครก็จะเล่าให้แม่ฟัง เท่าที่ถามแม่บอกว่าไม่มีการพูดถึงคนที่แทงเคยมีทะเลาะกันกับคนอื่นแต่ไม่ใช่คนนี้ตอนนี้รู้สึกตกใจมากปกติอารมณ์ร้อนบ้างเป็นคนเสียงดังพูดตรงๆ เพื่อนๆรักชวนไปกินเหล้าไปสังสรรค์กันรู้สึกแปลกใจว่าอยู่ในป้อมยามทำไมต้องแทงกันถึงขนาดนี้ไปเอามีดมาจากไหน ถ้าฝั่งของตนผิดก็ยอมรับผิดแต่ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุต้องดูเหตุผลก่อน

นายมานิต ผู้ก่อเหตุกล่าวว่า คนตายกินเหล้าเมามามีปากเสียงกันเรื่องงาน จากนั้นได้มีการชกต่อยกัน แล้วเหตุการณ์รุนแรงขึ้นตนผลักคนตายก่อนหลังจากนั้นชกต่อยกันตนโดนต่อยก่อนจะแทงสวนไป ส่วนมีดไม่ได้พกติดตัวตชอดเวลา

พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก. สภ.บางบัวทอง เปิดเผยถึงสาเหตุของเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทจนมีผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าป้อมยามหมู่บ้านคุณาภัทร 3 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตมีปัญหาส่วนตัวเรื่องงานกันมาก่อน และมีปากเสียงกันมาอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งวันเกิดเหตุเกิดการทะเลาะวิวาทรุนแรง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะใช้อาวุธมีดแทงผู้เสียชีวิต หลังเกิดเหตุผู้ก่อเหตุไม่ได้หลบหนี แต่รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพยานหลักฐานในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อสรุปสำนวนคดีต่อไป


ภาพ / ข่าว :

ฉัตรมงคล จังหวัดนนทบุรี