
นนทบุรี : สองสามีภรรยาข้องใจโดนทั้งเตะต่อยท้าทักษิณเรียกมาเลยให้นักข่าวมาด้วย
นายสุพจน์ มาละโส อายุ 51 ปี ร้องผ่านสื่อหลังที่ตนจอดรถติดได้มีรถ จยย.เป็นผู้หญิงขี่มาชนท้ายแล้วล้มลงไปต่อมาตนได้ลงไปช่วยยกรถ จยย.และได้มีชายสองคนขี่รถ จยย.เข้ามาช่วยยกรถ จยย.แล้วด่าและทำร้ายร่างกายของตน ที่ถนนหน้าหมู่บ้านศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ ถ.จงถนอม ต.ศาลากลาง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบนายสุพจน์ มาละโส อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นผู้เสียหายเล่าว่าตนทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 11.50 น.ตนได้ขับรถกระบะออกจากไซต์งานเพื่อที่จะไปชื้อของและลือโทรศัพท์มือถือเอาไว้ที่ไซต์งานซึ่งในขณะที่ตนขับรถมาตามท้องถนนพอมาถึงหน้าหมู่บ้านศุภาลัย การ์เด้นวิลล์ จะมีรถเลี้ยวเข้าซอยซึ่งรถแต่ละคันก็ชลอจอดรถซึ่งรถของตนจอดต่อๆกันมาเป็นคันที่สามซึ่งในขณะที่ตนจอดรถติดอยู่ก็ได้มีหญิงสาวคนนึ่ง ขับรถ จยย. มาชนท้ายรถตน พอตนเห็นก็รีบลงรถไปช่วย โดยการยกรถ จยย.ลงจากคนเจ็บ ก็ได้มีชายวัยรุ่น2คน ขับจยย. มาเห็นเลยช่วยกันยกออก ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้พกโทรศัพท์ จึงวาน รปภ.ให้โทรเรียกรถพยาบาลให้ แต่วัยรุ่นก็ด่าตนว่า (ไอ้เหี้ยมึงเป็นคู่กรณีทำไมมึงไม่โทรเอง) ตนก็บอกวันรุ่น2คนนั้นว่าตนไม่มีโทรศัพท์มา เขาก็ลุกขึ้นมาและหาเรื่องตนพูดประมานว่าทำไมมึงมีปัญหากับกูหรอ ปละพยายามทำร้ายร่างกายตน สักพักก็มีรถเก๋งพลเมืองดีขับผ่านมา และลงมาช่วยห้ามและบอกให้ตนขอโทษจะได้ไม่มีปัญหา ตนจึงได้ยกมือขอโทษไป 2 ครั้ง ทั้งๆที่ตนไม่ได้ผิดอะไรเลยแต่ก็ไม่จบชายที่ตัวเล็กๆเดินตามมาต่อยเข้าที่ตาของตนข้างขวาและเตะเข้าที่หัวไหล่ของตนไปหนึ่งครั้งและอีกคนหนึ่งก็ยืนคุมเชิงไว้หากตนส่วนไปตอนนั้น ตนคงโดนรุมทำร้าย ตนจึงรีบเดินหนี วัยรุ่นทั้ง2คนนั้นก็ยังเดินตามตนต่อ และต่อว่าตนไม่ช่วยคนเจ็บ ตนก็ช่วยยกรถออกจากคนเจ็บแล้ว จะให้ตนไปยกคน คงทำไม่ได้หากเป็นอะไรหนักตอนเคลื่อนย้ายขึ้นมาจะทำไง ซึ่งตนคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของหมอ วัยรุ่นชาย2คนนั่นก็เดินตามตนไปเรื่อยๆตอนนั้นตนงงมาก มาทำร้ายตนทำไมทั้งๆที่ตนก็ช่วยคนเจ็บเหมือนกัน ตนไม่ได้หนีไปไหนเลย และไม่โทษคนเจ็บที่ขับจยย.มาชนท้ายรถตน เพราะเข้าใจว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้เสมอ อีกทั้งรถตนเป็นประกันชั้น1 จึงไม่ซีเรียส และตนก็จอดรถดีๆด้วย ผู้หญิงคนนั้นขับมาชนท้ายรถตนเอง ซึ่งตนไม่ผิดและไม่ได้ไปกล่าวหาเขาเลย ซึ่งตนไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันกับร้อยเวรเรียบร้อย และทาง ตร.ก็ให้ตนรอพบคู่กรณี ประมาน 1 ชม. และบอกตนว่าคู่กรณีกำลังมา ซึ่งตอนที่ตนไปโรงพักคนมี่ชนรถตนก็ไปรออยู่ก่อนแล้ว และคนที่มาหาเรื่องและต่อยตนก็บอกว่าหากตนจะไปแจ้งความก็ไปแจ้งเลย บอกรู้จักตำรวจในโรงพักนี้ทุกคนและยังไปข่มขู่ตนที่โรงพักอีกด้วย โดยพูดประมานว่า (มึงไม่จบใช่ไหมมึงไม่จบก็เจอกู มึงรู้ไหมว่ากูเป็นใคร กูติดคุกคดีฆ่าคนมาแล้ว มึงถามตำรวจได้เลย) และตอนอยู่ที่เกิดเหตุก็ยังขู่จะเอามีดมาแทงตน ส่วนเรื่องค่าเสียหายตนก็ออกค่าซ่อมให้เอง ทั้งๆที่ตนก็ไม่ผิดอะไร ซึ่งเวลานั้นตนรอเจ้าหน้าที่ดำเนินการนานมากๆ ชาย2คนนั้นไม่ไปไหน วนเวียนข่มขู่ตนอยู่แถวๆนั้นตลอด ตนก็กลัวจึงรีบขึ้นไปบอกตำรวจว่าตนไม่แจ้งความไม่ตรวจร่างกายแล้ว และรีบพาแฟนกลับบ้านทันที เพราะขนาดตำรวจอยู่ตรงนั้นยังไม่กล้าทำอะไร
น.ส.เล อายุ 31 ปี ภรรยา กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุนาย สุพจน์(สามี) ได้โทรไปหาตนว่าได้ถูกชายวัยรุ่น2คนต่อยทำร้ายร่างกาย ให้ตนไปหาที่โรงพักตนก็ตามไปและรอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่สให้รอคนที่ทำร้ายมา ประมาน 30 นาทีแต่ไม่มา จนตนรออีกประมาน 1 ชม. คนที่ต่อยสามีตนก็มา สามีตนและญาติของสามีที่ตามมาด้วยก็ขึ้นไปที่โรงพัก ชายคนนั้นก็บอกกับญาติสามีตนว่ามึงอย่าขึ้นมามึงไม่เกี่ยว และมาถามตนว่าตนเป็นเมียของนายสุพจย์ใช่ไหม ตนก็บอกว่าใช่ และเขสก็พูดว่าดูสิผัวมึง ไม่ช่วยผู้หญิงที่รถชนโดยการยกรถขึ้น ตนก็บอกไปว่าสามีตนไม่มีโทรศัพท์ และสามีตนก็เดินเข้ามาถามว่าทำไม เขาก็บอกว่าทำไมมึงไม่จบใช่ไหม เอากับกูอีกได้นพข้างนอกอะ ข่มขู่ที่จะทำร้ายร่างกายอย่างเดียว มันไม่จบเพราะหากตำรวจเคลียร์จบแล้วลงมาจากโรงพักไม่มีอะไรก็ไม่ติดใจอะไร ตนติดใจคือกลัวไม่จบตนก็ทำมาหากินแถวๆนี้ ขนาดตอนที่ลงมาจากโรงพักเขายังข่มขู่และให้ตนจำทะเบียนรถ จยย. ของเขาไว้เลย และขู่ตนไว้ว่ากูอะคดีฆ่าคนตาย ถามตำรวจได้ แถวนี้กูไม่กลัว แถวบ้านกูสบาย ตนก็กลัวไม่ปลอดภัยจึงมาร้องสื่อ ขอความเป็นธรรมให้กับครอบครัวตน เพื่อเวลาออกไปไหนแล้วบังเอิญเจอ ตนก็กลัว ตกใจ อีกอย่สงเรื่องนี้ตนก็ไม่ผิด และทำไมเขาถึงมาทำพวกเราด้วย พวกเราก็ไม่ได้ติบโต้อะไร ยกมือขอโทษก็แล้วทั้งๆที่เราไม่ได้ผิด จึงรู้สึกไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเรา2คน เพราะเขามาข่มขู่ตลอด
นาง.กุริสาภัสร์ รปภ.หน้าหมู่บ้าน กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุวันนั้น มีรถคันหน้าเบรกกระทันหัน จึงทำให้รถคันอื่นๆเบรกกะทันหันตามรวมถึงรถของ นาย สุพจน์ด้วย เป็นจังหวะที่ผู้หญิงขับรถ จยย. มาที่หลังชนท้ายพอดี ตอนนั้นตนเห็ยพอดีและหันไปบอกหัวหน้าว่าเกิดอุบัติเหตุ หันมาอีกทีก็เห็นผู้ชาย2คนนั้นเข้ามาช่วยแล้ว ตนจึงคิดว่าเป็นครอบครัวเดียวกันกับผู้หญิง ตนจึงออกมาดู และเกิดมีปากเสียงกัน จน นาย สุพจน์ โดนทำร้ายร่างกาย ซึ่งมันเกิดอุบัติเหตุหน้าหมู่บ้านขอฃเรา ในตอนนั้นตนก็เข้าไปช่วย แต่ช่วยอะไรมากไม่ได้เพระาตนก็โดนด่า ไม่ให้เข้าไปยุ่ง ตนตกใจมากไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
เบื้องต้นนายสุพจน์ มาละโส ซึ่งเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับร.ต.อ.วีระพงษ์ รูปสวย รอง สว.สอบสวน สภ.ปลายบาง เอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน
ภาพ / ข่าว :
ฉัตรมงคล จังหวัดนนทบุรี