มุกดาหาร : ภรรยาจ่าโต๋ วีรบุรุษทหารกล้าดีใจหลัง มมส. มอบโอกาศ


จากกรณีที่มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ระบุจ้อความบนเว็บไซต์มีข้อความว่า ตระหนักถึงความสำคัญของการเสียสละเพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ และเพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณและตอบแทนในความกล้าหาญของทหารหาญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย มหาวิทยาลัยจึงขอสนับสนุนด้านการศึกษาแก่ ครอบครัวผู้เสียสละ ประกอบด้วย บุตรและภรรยาของทหารผู้เสียชีวิต และบุตรของทหารผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เปิดเผยว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ที่จะเป็นกำลังใจ และแบ่งเบาภาระของครอบครัวผู้เสียสละ จึงได้กำหนดแนวทางการสนับสนุนด้านการศึกษาอย่างครอบคลุม โดยจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษาตลอดหลักสูตร ให้แก่ผู้ที่ประสงค์จะเข้าศึกษาต่อในทุกระดับการศึกษาของมหาวิทยาลัย ได้แก่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยมหาสารคาม (ฝ่ายประถมและมัธยม), ระดับปริญญาตรี, ระดับปริญญาโท และระดับปริญญาเอก  การสนับสนุนด้านการศึกษาครั้งนี้ ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายมหาวิทยาลัยในการส่งเสริมและให้กำลังใจแก่ครอบครัวของผู้ที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมหาวิทยาลัยมหาสารคามในการเป็นสถาบันการศึกษา ที่ไม่เพียงแต่มุ่งผลิตบัณฑิตและการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ แต่ยังให้ความสำคัญกับการตอบแทนผู้ทำคุณประโยชน์แก่สังคมและประเทศอย่างแท้จริง

ทีมข่าวลงพื้นที่บ้าน จ.ส.อ.ธวัชชัย บุสภา (บุ สะ ภา)จ่าโต๋ เลขที่ 37 หมู่ 3 บ้านโนนสังข์ศรี ต.บ้านซ่ง อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร หลังเว็บไซค์มหาวิทยาสารคามได้มอบโอกาสให้ นางสาวรจรินทร์ สิงห์ศร 37ปี ภรรยาและเด็กชายธนดล บุสภา (บุ สะ ภา)บุตรชายเข้าศึกษาที่มหาลัยมหาสารคามซึ่งภรรยาจ่าโต๋รู้สึกดีใจหลังจากที่ทาง มมส.ได้ติดต่อทางโทรศัพท์และได้แจ้งความประสงค์ที่จะให้คนเองและบุตรชายได้เข้าศึกษา ซึ่งตนเองมองว่าเป็นโอกาศดีที่ทาง มมส.มอบโอกาศให้ซึ่งตนเองตั้งใจว่าอยากเข้าไปศึกษาต่อซึ่งที่ผ่านมาตนเองเรียนจบแค่ระดับ ปวส. ตนเองกราบขอบพระคุณทางมหาวิทยาลัยมหาสารคามเป็นอย่างสูง แต่ทั้งนี้หน่วยงานต้นสังกัดจะบรรจุตนเองเข้าไปเป็นกำลังพลทดแทน ซึ่งขณะนี้ตนเองได้ดำเนินการเรื่องเอกสารทั้งหมดเพื่อยื่นให้หน่วยงานต้นสังกัดของสามี ส่วนในด้านที่ทำงานเก่าของตนนั้นตนได้ยื่นใบลาออกไว้แล้ว