
ยโสธร : ผู้ว่าฯ ชลประทาน เตรียมรับมวลน้ำ เขื่อนยโสธรพนมไพรน่าห่วง
ที่เขื่อน ยโสธร พนมพนมไพร บ้านหนองหอย ตำบลเขื่อนคำ อำเภอเมือง จังหวัดยโสธร นาย ชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัด ยโสธร พร้อมด้วย ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จังหวัด นายอำเภอเมือง ยโสธร รุดออกติดตามมวลน้ำที่ไหลจากตอนเหนือ
ประกอบด้วย จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด ลงมาสมทบกับน้ำฝนในพื้นที่ ซึ่งมีเขื่อน ยโสธร พนมไพร เป็นที่รองรับน้ำ ก่อนถึงฝ่ายธาตุน้อย มี นาย ชัยวิทย์ ทาทอง หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษา ได้ทำการชี้แจง มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับ เขื่อนยโสธร พนมไพร ระดับน้ำหน้า ท้ายเขื่อน อยู่ระดับเดียวกัน ยกประตรูแขวนทั้ง 8 บาน
เพื่อเร่งระบาย เพื่อรองรับมวลน้ำเหนือก้อนใหญ่ที่กำลังจะมาถึง ความจุเขื่อนกักเก็บ 20.99 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นร้อยละ 107862 เปอร์เซ็นต์ มีปริมานน้ำไหลผ่าน 890 ต่อวินาที หรือ 76.896 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน มีปริมานน้ำฝน 1.00 มม น้ำฝนสรสม 1.113 มม ถือว่ายังพอที่จะรองรับได้ แต่ก็แต่ประมาท ต้องเฝ้าระวังต่อไป
นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เปิดเผยว่า ภาพรวมของจังหวัดขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบแล้ว 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยโสธร, อำเภอคำเขื่อนแก้ว, อำเภอป่าติ้ว และอำเภอไทยเจริญ มีประชาชนได้รับผลกระทบราว 2,800 ราย และคาดว่ามีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายเบื้องต้นกว่า 26,000 ไร่ ซึ่งเป็นผลกระทบสะสมมาจากอิทธิพลของพายุคาจิกและหนองฟ้า
โดยเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสำรวจเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามทางจังหวัดได้มีการบูรณาการหน่วยงานต่าง ๆ ช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และเชื่อว่าประมาณ 3 วันหลังจากนี้น้ำจะลดลง โดยในส่วนของมวลน้ำจากตอนบนที่มาจากจังหวัดร้อยเอ็ดจะไม่ส่งผลกระทบรุนแรง เนื่องจากมวลน้ำได้แผ่กระจายออกด้านข้างลำน้ำไปแล้ว
โดยระดับน้ำที่เขื่อนยโสธร-พนมไพร ซึ่งเป็นจุดรวมมวลน้ำสูงขึ้นเพียง 26 เซนติเมตรจากวันก่อนหน้านี้ ยังไม่ถึงขั้นวิกฤต และยังสามารถบริหารจัดการได้ ทั้งนี้ได้มีข้อสั่งการให้ทุกอำเภอเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีหากมีร่องมรสุมพัดผ่านเข้ามาเพิ่มเติม
โดยเน้นย้ำให้เร่งสำรวจความเสียหายของบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรไปพร้อมกัน และฝากเตือนประชาชนขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เช่น กรมอุตุนิยมวิทยา สัญญาณแจ้งเตือน Cell Broadcast ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่หากมีภัยขั้นรุนแรงจะมีการแจ้งเตือนเข้าสู่ระบบมือถือพี่น้องประชาชน
และขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายจากโรคที่มากับน้ำ สัตว์มีพิษ รวมถึงอันตรายจากระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่น้ำท่วมขัง